วันแรกของการเดินทาง กรุงเทพฯ – สุวรรณภูมิ
21.00 น. คณะพร้อมกันสนามบินนานาชาติ สุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย เจ้าหน้าที่ของบริษัท วิชั่น ออน คอยให้การต้อนรับดูแลด้านเอกสารและสัมภาระในการเดินทาง
0
วันที่สองของการเดินทาง กรุงเทพฯ ซูริค (สวิสเซอร์แลนด์) ชาฟเฮาเซน น้ำตกไรน์   ชไตน์อัมไรน์ ลูเซิร์น อนุสาวรีย์สิงโตหิน
00.35 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 970
06.55 น. เดินทางถึง สนามบินซูริค ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทางศุลกากรเรียบร้อยแล้ว จากนั้นเดินทางสู่ เมืองชาฟเฮาเซน (ใช้เวลาประมาณ 50 นาที) โดยที่ทุกท่านชม น้ำตกไรน์ ซึ่งน้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกที่สวยงามและใหญ่ที่สุดในยุโรป เกิดจากการละลายของหิมะบนยอดเขามีความกว้าง 150 เมตร สูงถึง 23 เมตร ในฤดูหนาวมีกระแสน้ำไหล 250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในฤดูร้อนกระแสน้ำไหลสูงถึง 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ด้วยกระแสน้ำที่ไหลแรงทำให้มีจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความชุ่มฉ่ำจากละอองน้ำได้ SPECIAL BOAT TRIP : พิเศษ! นั่งเรือชมความงดงามของน้ำตกแบบใกล้ชิดพร้อมเก็บภาพความประทับใจบนเกาะกลางน้ำตก นำท่านเดินทางสู่ เมืองชไตน์อัมไรน์ (ใช้เวลาประมาณ 30 นาที) เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ติดกับชายแดนเยอรมนีที่มีแม่น้ำไรน์ไหลไปรวมกับทะเลสาบคอนสแตนซ์เป็นกลิ่นอายของยุคกลาง บ้านเรือนสไตล์กึ่งไม้อันเป็นเอกลักษณ์และภาพวาดเฟรสโก้บนผนังบ้าน ทำให้เมืองเล็กๆ แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม.) ในอดีตเป็นหัวเมืองโบราณของสวิตเซอร์แลนด์ และยังเป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า “หลังคาแห่งทวีปยุโรป (The Roof Of Europe)” เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้ว ยังมีภูเขาน้อยใหญ่สลับแซมด้วยดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม ต่อมานำท่านชม อนุสาวรีย์สิงโตหิน เป็นผลงานแกะสลักหินบนหน้าผา สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศสในสงครามปฎิวัติใหญ่ ค.ศ.1792 โดยสิงโตแสดงถึงความกล้าหาญซื่อสัตย์และจงรักภักดี
นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL ASTORIA LUZERN, LUZERN หรือเทียบเท่า www.astoria-luzern.ch
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรมอาหารพื้นเมือง
L,D
วันที่สามของการเดินทาง ลูเซิร์น เองเกิลเบิร์ก ยอดเขาทิตลิส อินเทอร์ลาเก้น ลูเซิร์น
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ สถานีเองเกิลเบิร์ก (ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) โดยที่ท่านจะได้นั่งกระเช้าที่หมุนรอบตัวเองได้แห่งแรกของโลกและชื่นชมทัศนียภาพแบบ 360 องศา ขึ้นสู่สถานีบนยอดเขาทิตลิสที่มีความสูง 3,032 เมตร ยอดเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปีเที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารบนยอดเขาทิตลิส พิเศษ! ให้ทุกท่านได้ชิมอาหารพื้นเมืองสมัยสงครามโลกชื่อดังอย่าง ‘ฟองดูว์ชีส’ ซึ่งมีกลิ่นชีสที่หอมกรุ่น เมื่อทานคู่กับขนมปังจะได้สัมผัสที่ละมุน
บ่าย นำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองอินเทอร์ลาเก้น (ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม.) เป็นเมืองที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 570 เมตร โดยอยู่ระหว่าง 2 ทะเลสาบ คือ ทะเลสาบเบรียนซ์(Brienz) และทะเลสาบธูน (Thun) บรรยากาศโอบล้อมไปด้วยภูเขา ทุ่งหญ้า ทะเลสาบและสวนผลไม้ นอกจากนี้ที่นี่ยังสามารถมองเห็นยอดเขา 3 แห่ง คือ ยอดเขาจุงเฟรา(Jungfrau) ซึ่งมีสถานีรถไฟบนยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรปถึง 4,158 เมตร ยอดเขาเมินซ์ (Monch) และยอดเขาไอเกอร์ (Eiger) ทำให้ทิวทัศน์แถบนี้มีอากาศที่บริสุทธิ์และสวยงามเกินคำบรรยาย จนใครหลายคนได้กล่าวว่า “สวยเหมือนเมืองในฝัน”
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน นำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) ที่พักในวันรุ่งขึ้นตั้งอยู่ในเมืองเซอร์แมท คณะทัวร์จะต้องเดินทางโดยใช้รถไฟและถือกระเป๋าต่อเพื่อไปยังโรงแรม เพื่อความสะดวกจึงขอแนะนำท่านให้แบ่งสัมภาระเป็นกระเป๋าเดินทางขนาดเล็กสำหรับ 1 คืน โดยที่กระเป๋าจะอยู่ในความดูแลของท่านเองตลอดการเดินทาง
นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL ASTORIA, LUCERNE หรือเทียบเท่า www.astoria,Lucerne
B,L,D
วันที่สี่ของการเดินทาง ลูเซิร์น สะพานไม้ชาเปล อิสระชมเมืองเก่า อันเดอร์แมท   นั่งรถไฟกลาเซียร์เอ็กซ์เพลส เซอร์แมท
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม สะพานไม้ชาเปล สัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ทว่าในปี 1993 ถูกไฟไหม้ทำลายไปบางส่วน รวมถึงภาพวาดบนหน้าจั่วตามขื่อของสะพานไม้กว่า 147 ภาพ เสียหายไปจนเหลือแค่เพียง 47 ภาพ อย่างไรก็ตามสะพานแห่งนี้ก็ได้รับการบูรณะภายในปีถัดมา จากนั้นอิสระให้ท่านชมเมืองเก่า โดยที่ท่านสามารถเดินเล่นภายในเมืองเก่าลูเซิร์น ชื่นชมกับภาพเฟรสโก้ตามกำแพงบ้านต่างๆ และสัมผัสอากาศอันบริสุทธิ์ของเมืองพร้อมกับช้อปปิ้งสินค้าหลากหลายชนิด เช่น นาฬิกาที่ได้รับการการันตีจากสวิสเซอร์แลนด์ ช็อกโกแลต เสื้อผ้า และอื่นๆ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย นำทุกท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟอันเดอร์แมท (ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.)นำท่านเดินทางไปยังเมืองเซอร์แมท โดยนั่งรถไฟ GLACIER EXPRESS TRAIN เป็นรถไฟด่วนที่ช้าที่สุดในโลก กับหน้าต่างแบบพาโนรามาให้คุณได้สัมผัสความสวยงามของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเมืองเซอร์แมทเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองปลอดมลพิษโลก ตั้งอยู่บนความสูงกว่า 1,620 เมตร ภายในเมืองไม่อนุญาตให้รถยนต์วิ่ง ถ้าหากนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาที่นี่ต้องโดยสารรถไฟมาเท่านั้น รถที่วิ่งในเมืองนี้จึงเป็นรถประเภทรักษาสิ่งแวดล้อมและไม่ก่อให้เกิดมลพิษ คือ ใช้แบตเตอรี่หรือไฟฟ้า แทนน้ำมัน ที่สำคัญเป็นที่ตั้งของภูเขาที่สวยที่สุดอย่างมัทเทอร์ฮอร์น
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
นำท่านเข้าสู่ที่ SUNSTAR STYLE HOTEL, ZERMATT หรือเทียบเท่า http://zermatt.sunstar.ch/
B,L,D
วันที่ห้าของการเดินทาง เซอร์แมท นั่งกระเช้ากลาเซียร์ พาราไดซ์ ยอดเขาไคลน์มัทเทอร์ฮอร์น   เวเวย์ ส้อมยักษ์กลางทะเลสาบ รูปปั้นชาร์ลีแชปปลิน โลซานน์ ศาลาไทย มองเทรอซ์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่าน นั่งกระเช้ากลาเซียร์พาราไดซ์ขึ้นสู่ยอดเขาไคลน์มัทเทอร์ฮอร์น ที่มีความสูง 3,883 เมตร โดยกระเช้าไฟฟ้าใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที จึงจะถึงจุดชมวิวกลาเซียร์พาราไดซ์ โดยที่ท่านจะได้ชมความงดงามของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น ที่มีความสูงถึง 4,478 เมตร จนได้ชื่อว่าเป็นภูเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดของเทือกเขาแอลป์
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขาไคลน์มัทเทอร์ฮอร์น
หมายเหตุ : ท่านสามารถขึ้นไปยังจุดชมวิว Gornergrat ได้โดยรถไฟ ซึ่งมีความสูงเพียง 3,089 เมตร น้อยกว่ายอดเขาไคล์นแมทเทอร์ฮอร์นถึง 800 เมตร ทำให้ความสวยงามของทิวทัศน์ที่มองเห็นแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดและถ้าท่านต้องการถ่ายภาพคู่กับยอดเขา แมทเทอร์ฮอร์น แนะนำให้ท่านขึ้นสู่ยอดเขา ไคลน์ แมทเทอร์ฮอร์น จะได้ภาพถ่ายที่สวยงามและใกล้ชิดกว่า
บ่าย นำทุกท่านนั่งรถไฟเข้าสู่ เมืองแทช และเดินทางเข้าสู่ เมืองเวเวย์ (ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.) เมืองเวเวย์ ตัวเมืองตั้งอยู่บนชายฝั่งตอนเหนือของทะเลสาบเจนีวา ได้รับขนานนามว่าเป็น ไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส (Pearls of the Swiss Riviera) ดินแดนที่เหมาะแก่การทำกิจกรรมแทบทุกฤดูกาล และพบกับความงดงามของย่านเมืองเก่า (Old Town) มีพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์เป็นที่เก็บรักษาเฟอร์นิเจอร์,งานฝีมือ,อาวุธโบราณ,เหรียญ และ อื่นๆ นำท่านชม ส้อมยักษ์ ที่ตั้งอยู่ในทะเลสาบใกล้กับสวนสาธารณะของเมืองเวเวย์ สร้างเป็นสัญลักษณ์ของบริษัท เนสเล่ย์ เนื่องจากเป็นบ้านเกิดของบริษัทเนสเล่ย์ ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทเนสเล่ย์ ปัจจุบันได้ย้ายไปอยู่ที่ทำการใหม่ใกล้ท่าเรือ อาคารแห่งเดิมจึงกลายเป็นพิพิธภัณฑ์เนสเล่ย์ เพื่อให้ความรู้เกียวกับการบริโภคอาหาร จากนั้นนำชม รูปปั้นชาร์ลีแชปปลิน ซึ่งเป็นดาราตลกชื่อก้องโลก เป็นชาวลอนดอนโดยกำเนิด อีกทั้งยังเป็นดารา ผู้เขียนบท ผู้กำกับในยุคหนังเงียบ ภาพยนต์ที่ทำให้เค้าโด่งดังคือ The Tramp ซึ่งปรากฎในชุดเดียวกันกับรูปปั้นชาร์ลีแชปปลิ้นซึ่งเลือกที่จะมาใช้ชีวิตบั้นปลายและเสียชีวิตที่นี่ ชาวเมืองจึงสร้างรูปปั้นไว้เป็นอนุสรณ์เพื่อละลึกถึง หลังจากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองโลซานน์ (ใช้เวลาประมาณ 30 นาที) เมืองโลซานน์ตั้งบนเนินเขาและทะเลสาบน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกโดย เป็นพื้นที่ชุมชนดั้งเดิมซึ่งใช้ภาษาฝรั่งเศษเป็นหลัก เนื่องจากมีอาณาเขตติดต่อกับเมืองเอเวียงประเทศฝรั่งเศษ เพียงโดยสารเรือจากท่าเรือโลซานน์ข้ามทะเลสาบเจนีวา เป็นเมืองที่ที่สมาชิกราชนิกุลทั้ง 4 พระองค์ ของไทยพำนักอยู่ในฤดูร้อนตลอดระยะเวลา 18 ปี นำชม ศาลาไทยเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งตั้งอยู่ในสวนสารธารณะปาร์ค ดู เดอนองตู สร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และเพื่อเฉลิมฉลองวาระสำคัญ 2 วาระ คือ วโรกาสที่ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี และเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับสวิสเซอร์แลนด์ โดยเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2552 สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองมองเทรอซ์ (ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) มองเทรอซ์เป็นเมืองเล็กๆแสนน่ารักที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลสาบเจนีวาเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งเมืองแห่งนี้ถือเป็นเมืองอีกเมืองหนึ่งในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่เป็นอีกจุดหมายปลายทางในฝันของใครหลายคนที่ แม้แต่ผู้ที่เคยมาเยือนแล้วก็อยากที่จะกลับมาซึมซับบรรยากาศ ณ เมืองแห่งนี้อีก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL EUROTEL, MONTRUEX หรือเทียบเท่า http://www.eurotel-montreux.ch/en/
B,L,D
วันที่หกของการเดินทาง มองเทรอซ์ ปราสาทชิลยอง สถานีโกล ดู ปิยอง ยอดเขากลาเซียร์ 3000 เมืองเบิร์น
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม ปราสาทชิลยอง (ชมด้านใน) เป็นปราสาทยุคกลางของราชวงศ์ซาวอยที่มีความเก่าแก่กว่า 1,000 ปี สัญลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในอดีตเคยเป็นจุดควบคุมการเดินทางของนักเดินทางและเก็บค่าผ่านทางของขบวนเรือสินค้า ที่สัญจรผ่านไปมา รวมถึงเคยใช้เป็นคุกลับที่มืดมิด และโหดร้ายอีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ สถานี โกล ดู ปิยอง (ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม.) โดยที่ท่านจะได้ นั่งกระเช้าขึ้นสู่ยอดเขากลาเซียร์ 3000 มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 2,971 เมตร จากจุดชมวิวท่านจะสามารถเห็นเทือกเขาแอลป์รวมถึงยอดเขามองบลังค์ จุงเฟรา ไอเกอร์ และเมินซ์
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย อิสระให้ท่านได้สนุกสนานกับกิจกรรมบน ยอดเขากลาเซียร์ 3000 ซึ่งท่านสามารถท้าทายความกล้ากับทางเดินอันแสนหวาดเสียวกับ Peak Walk เป็นสะพานแขวนที่มีความยาว 107 เมตร ข้ามผ่านช่องว่างระหว่างภูเขาได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองเบิร์น เมืองหลวงของสวิสเซอร์แลนด์ที่มีหมีเป็นสัญลักษณ์ เป็นเมืองเก่าจากยุคกลางที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นภูมิประเทศ และแม่น้ำ ที่ยังคงรูปลักษณ์ดั้งเดิมตั้งแต่เมื่อ 800 ปีที่แล้ว ความงดงามทางสถาปัตยกรรม ความคลาสสิกของอาคารบ้านเรือนธรรมชาติที่แวดล้อม รวมไปถึงวิถีชีวิตของผู้คนที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL ALLEGRO , BERN หรือเทียบเท่า http://www.kursaal-bern.ch/Hotel
B,L,D
วันที่เจ็ดของการเดินทาง นาฬิกาดาราศาสตร์ อพาร์ทเมนต์ไอน์สไตน์ ซูริค   โบสถ์โกรสมึนสเตอร์ อิสระช้อปปิ้ง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม หอนาฬิกาดาราศาสตร์ Zytglogge เป็นสัญลักษณ์สำคัญของกรุงเบิร์น มีนาฬิกาโบราณตั้งอยู่ทั้ง 2 ด้าน โดยด้านทิศตะวันตกเป็นนาฬิกามีเข็มธรรมดา ส่วนด้านทิศตะวันออกเป็นนาฬิกา ดาราศาสตร์โบราณ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1530 โดยจะมีตุ๊กตากลออกมาเคลื่อนไหวประกอบเสียงบอกชั่วโมง เรียกรอยยิ้มจากผู้คนที่ผ่านไปมาได้เป็นอย่างดี จากนั้นนำท่านชม อพาร์ทเมนต์ไอน์สไตน์ (ด้านนอก) บ้าน 1 ใน 5 หลัง ของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์ระดับโลก ตั้งอยู่ที่บ้านหมายเลข 49 ถนน Kramgasse ซึ่งเขาพักอยู่ที่ชั้นสองของบ้านหลังนี้ระหว่างปี ค.ศ.1903–1905 ปัจจุบันนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ และคาเฟ่ นำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองซูริค (ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม.) ซึ่งเมืองซูริคตั้งอยู่ทางทิศเหนือของสวิสเซอร์แลนด์และเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสวิต นอกจากนี้ซูริคยังเป็นเมืองศูนย์กลางทางธุรกิจของประเทศอีกด้วย ทำให้เมืองซูริคมีความเจริญทางเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก แต่เทคโนโลยีเหล่านั้นกลับผสมผสานกับความเรียบง่ายของการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว นี่จึงทำให้ซูริคมีความสวยงามและมีเสน่ห์เป็นของตัวเอง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านชม โบสถ์โกรสมึนสเตอร์ เป็นโบสถ์หอคอยคู่สูงระฟ้า ซึ่งมีความสำคัญและเก่าแก่ของเมืองที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1100 ภายในมีงานประติมากรรมและสถาปัตยกรรมการตกแต่งที่สวยงาม รวมทั้งยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวในประวัติศาสตร์และยังเป็นที่เก็บรักษาพระคัมภีร์โบราณทางคริสต์ศาสนา หลังจากนั้น อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้ง บนถนน Bahnhofstrasse ที่ทอดยาวจากสถานีรถไฟ ผ่านเมืองเก่าไปจนถึงสุดริมน้ำ เดิมเคยเป็นทางรถม้าแต่ปัจจุบันเป็นถนนคนเดิน แหล่งเศรษฐกิจที่สำคัญของซูริค สองข้างทางเรียงรายไปด้วยร้านค้าทั้งแบรนด์เนมและร้านอาหาร ขึ้นชื่อว่าเป็นถนนคนเดินที่สวยและหรูหราที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL NOVOTEL MESSE, ZURICH หรือเทียบเท่า www.novotel.com
B,L,D
วันที่แปดของการเดินทาง ซูริค สนามบินซูริค
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติซูริค เพื่อตรวจเช็คเอกสารการเดินทางและสัมภาระเตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯ
13.15 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 971
B
วันที่เก้าของการเดินทาง สนามบินสุวรรณภูมิ
06.10 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
0